วันอังคารที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2560

เปิดประสบการณ์ใหม่ปั่นจักรยานไฟฟ้าเที่ยวทุ่งลาเวนเดอร์กันค่ะ

ปั่นจักรยานไฟฟ้าญี่ปุ่น เที่ยวทุ่งลาเวนเดอร์กันค่ะ วันนี้เป็นวันที่ใช้ตั๋ว JR Pass เป็นวันสุดท้ายแล้ว พวกเราก็เลยตัดสินใจนั่งรถไฟไปลง Bibaushi เพื่อหาเช่าจักรยานไฟฟ้าปั่นเที่ยวทุ่งลาเวนเดอร์และชมธรรมชาติที่สวยงามกันค่ะ ซึ่งอยากบอกว่าการปั่นจักรยานในญี่ปุ่นเป็นกิจกรรมอีกอย่างหนึ่งที่แหม่มอยากทำมาก...ขอทำสักครั้งเถอะแล้วก็สมหวังแล้วค่ะ ทุกคนก็อยากปั่น อิอิ เป็นการปั่นจักรยานชมทุ่งลาเวนเดอร์ที่สนุกสนานมากในทริปนี้



การเดินทาง
นั่งรถไฟฟ้า JR Furano Line  for ASAHIKAWA ไปลงสถานี JR Bibaushi เดินต่อ 10 นาที ไปหาร้านเช่าจักรยานกันค่ะ 




สถานี JR Bibaushi เล็ก ๆ ค่ะ

เจอแล้วค่ะร้านเช่าจักรยาน เป็นจักรยานไฟฟ้าทั้งหมดเลย ราคาก็แรงอยู่นะ แต่เมื่อตั้งใจแล้วก็จัดกันคนละคันค่ะ พวกเราเลือก A TYPE แบบครึ่งวัน (4 ชั่วโมง) ราคา 2,200 เยน อ่านรายละเอียดได้ที่นี่ค่ะ จุดชมวิวต่าง ๆ ที่แนะนำ


มีป้ายบอกไปร้าน Bike for Rent ด้วย

เจอแล้วค่ะ ร้านใหญ่เลย พื้นที่กว้างขวาง

ปั่นไปตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่เลยค่ะ จากจุดเช่าให้เลี้ยวขวา ตามแผนที่มุ่งหน้าสู่ Shikisai no Oka แต่ขอบอกว่าระหว่างทางวิวสวยมาก มีดอกไม้สีเหลืองบานสะพรั่งเต็มทุ่ง ปั่นไปนี่สดชื่นมาก แวะถ่ายรูปเล่นไปเรื่อยค่ะ 


ปั่นไปนิดเดียว วิวสวยงามมาก

มีดอกไม้สีเหลืองบานสะพรั่งเต็มทุ่ง

ขอถ่ายเป็นที่ระลึกสักหน่อย 

Shikisai no Oka ไม่พูดถึงไม่ได้ เพราะเจ้าหน้าที่ที่ Information Tourism บอกกับพวกเราว่าควรไปนะ เข้าฟรีจ้า เป็นฟาร์มเด่นของเมืองบิเอ ฟาร์มชิกิไซ โนะ โอกะ ปลูกดอกไม้กว่า 30 ชนิด ปลูกสลับกับไปยาวนานถึงช่วงฤดูใบไม้ร่วงกันเลยค่ะ พอไปถึงก็ไม่ผิดหวังเลยค่ะ แม้อากาศจะค่อนข้างร้อนแต่พอเห็นดอกไม้สวย ๆ ก็หายร้อน ถ่ายรูปกันอย่างสนุกสนานเลยค่ะ 


ด้านหน้าทางเข้า คนจะแน่นหน่อย แต่เข้าไปกว้างมาก

Shikisai no Oka

มีรถนำเที่ยวด้วย แต่ต้องมีค่าใช้จ่ายค่ะ

พวกเราเดินค่ะ ดอกไม้ปลูกเต็มภูเขาเลย

มีทุ่งลาเวนเดอร์นิดหน่อย

ดอกไม้หลากสี นานาชนิด 

เห็นแล้วสดชื่นมาก แม้อากาศจะค่อนข้างร้อน

ทุ่งทานตะวัน ก็กำลังงาม

สีขาว ตัดกับท้องฟ้าสวยจัง

ยังมีอีกหลายแปลงค่ะ

และที่ชอบมากกินแล้วสดชื่นเห็นจะเป็น Melon Jelly ค่ะ แนะนำให้ชิม หวานอร่อยดีนะ ติดใจเลย แก้วก็ใหญ่ใช้ได้นะ ปั่นไปกินไป อร๊ายยยยย มีความสุข 


แนะนำให้ชิมค่ะ สดชื่นมาก

ปั่นต่อไปอีกฟาร์มค่ะ ไปตามป้ายเลย ช่วงนี้เนินลงเขาจะเยอะหน่อย ต้องคอยเบรคมือจักรยานเบา ๆ แต่สนุกมากเลย ใช้เวลาประมาณ 15 นาที ก็มาถึง Kanno Farm


ปั่นไปอีกฟาร์มค่ะ

Kanno Farm เนินลาเวนเดอร์ ที่ตัดกับท้องฟ้าสดใสและบ้านหลังคาสีขาว เป็นสัญลักษณ์ของคันโนะฟาร์มแห่งนี้ นอกจากทุ่งลาเวนเดอร์ ก็จะเจอดอกไม้กว่า 10 สวยงามมาก เข้าฟรีจ้า 


Kanno Farm 

ต้องขึ้นเนินไปถ่ายรูปค่ะ สนุกมาก อากาศดี๊ดี ที่นี่เค้าทำทางแหวกให้เข้าไปถ่ายรูปด้วย ดีจัง ตอนนี้ยังกะอยู่ในดงลาเวนเดอร์เลย 

เนินลาเวนเดอร์ ที่ตัดกับท้องฟ้าสดใส

อยู่บนเนินก็สวยดีนะ

ซูมให้เห็นดอกลาเวนเดอร์แบบใกล้

ดอกหอมดีนะคะ ถ่ายให้ตัดกับท้องฟ้าบ้าง

มุมที่จอดจักรยานถ่ายไปก็สวยดี

เหมือนอยู่ในทุ่งลาเวนเดอร์เลย (มีทางเดินให้เข้าไปนะคะ)

ขากลับก็ปั่นจักรยานไปคืนร้านค่ะ พวกเราใช้เวลาแต่ละฟาร์มเกือบชั่วโมงเลย เพลินมากเมื่อเจอทุ่งลาเวนเดอร์และดอกไม้สวย ๆ ขากลับก่อนคืนจักรยานก็เลี้ยวแวะโน่น นี่ ไปเรื่อย เพลินมากเลยเกือบลืมเวลาค่ะ 555 แต่ก็คืนทันและได้เวลาขึ้นรถไฟกลับพอดี รอแป๊บเดียวค่ะ


ปั่นไปเจอทางไปศาลเจ้าด้วย แต่ไม่ได้แวะค่ะ

กลับมารอรถไฟที่เดิม ป้ายฝั่งนี้น่ารักอ่ะ

รถไฟมาแล้ว โชคดีมากที่ได้นั่งรถไฟท่องเที่ยวขบวน Norokko Train ที่นั่งเป็นแบบไม้ ฝั่งนึงนั่งแบบหันหน้าหากัน อีกฝั่งนึงนั่งหันหน้าไปหาวิวด้านนอกเลย ฟินมากค่ะ วิวระหว่างทางก็สวยดีเพลิน ๆ แป๊บเดียวถึงสถานี Furano ล่ะ


รถไฟท่องเที่ยวขบวน Norokko Train

โลโก้น่ารักเชียว


แบบที่นั่งด้านในรถค่ะ Open Air เลย

ในที่สุดก็ได้ปั่นจักรยานในญี่ปุ่นแล้ว สนุกมากค่ะ ไม่เหนื่อยเลยเพราะเป็นจักรยานไฟฟ้า อิอิ ทุ่นแรงเยอะมาก เป็นประสบการณ์ที่ดีมากเลย ได้สัมผัสธรรมชาติของญี่ปุ่นอย่างใกล้ชิด อยากแวะตรงไหนก็แวะได้สบายมาก หากนั่งรถไฟคงได้แต่มองลงไปไม่ได้ อิอิ ยังมีอีกหลายกิจกรรมที่อยากทำในญี่ปุ่นมากเลย ไว้เจออะไรสนุก ๆ จะมาเล่าแนะนำกันอีกนะคะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น