วันอังคารที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2560

Unseen Nakatsu สถานที่เที่ยวธรรมชาติในคิวชู

สวัสดีค่ะ ครั้งนี้มาแนะนำสถานที่เที่ยวสวย ๆ ใน Nakatsu จังหวัด Oita กันค่ะ อยากบอกว่าเป็นสถานที่ที่คนไทยยังไปเที่ยวน้อยถึงน้อยมาก จัดว่าเป็นสถานที่เที่ยว Unseen เลยก็ได้นะ เที่ยวคิวชูครั้งนี้แหม่มและน้องมีความตั้งใจว่าจะไปเที่ยวที่ที่ยังไม่เคยไปและคนไทยเที่ยวน้อย แล้วก็สมใจนึก บางลำภู (เด็กรุ่นใหม่จะทันม่ะ) 


Nakatsu

น้องบอกว่า Nakatsu น่าสนใจ ก็ลอง Search ไปเจอ Web ของญี่ปุ่น https://www.nakatsuyaba.com/tokusyu/season/kouyou.html (มีภาษาอังกฤษ) เห็นสถานที่เที่ยวแล้วน่าสนใจมาก เห็นภาพ KeiShuho / KyoShuho / Ao-no-domon เรียกหลายชื่อจัง จาก http://shimoge.oita-shokokai.or.jp/images/kyosyuhomap.jpg ต้องขอบคุณจริง ๆ ภาพสวยงาม พอแหม่มลอง Search หารีวิวของไทยมีน้อยมาก ถึงจะมีบ้างแต่ส่วนมากก็มีแต่ภาพไม่ค่อยอธิบายอะไรมาก และไม่ได้บอกวิธีการเดินทางด้วย แต่ก็หาเจอของญี่ปุ่นจนได้


บล็อกนี้เราจะไปเที่ยวที่นี่กันค่ะ

การเดินทาง จาก Hakata นั่ง LTD. EXP SONIC ไปลงสถานี Nakatsu ใช้เวลาประมาณ 99 นาที (รถออกทุก 30 นาที) และหน้าสถานีจะมีรถบัสไปสถานที่เที่ยว นั่งประมาณ 30 นาทีถึงค่ะ


จาก Hakata นั่ง LTD. EXP SONIC

ขอกริ๊ดดดดดดดดแป๊บ เพราะได้นั่ง SONIC883 รุ่นที่นั่งมิกกี้เมาส์ค่ะ ดีใจสุด ๆ เพราะที่ผ่านมาไม่เคยได้ขึ้นขบวนนี้เลยค่ะ ถ่ายรูปสิค่ะรออะไร อิอิ


สถานี Nakatsu ใหญ่ทีเดียวค่ะ
พอถึง Nakatsu โห 😄 สถานีค่อนข้างใหญ่นะ เมืองก็ใหญ่ใช้ได้เลย เป็นเมืองที่มีอนุสาวรีย์ของท่านที่อยู่ในแบงค์ของญี่ปุ่นค่ะ (คนละฝั่งกับที่ขึ้นรถบัส) 


อนุสาวรีย์ของท่านที่อยู่ในแบงค์ของญี่ปุ่นค่ะ
จากนั้นก็นำภาพ AonoDomon Tunnel และเดินไป Tourism Information ให้เจ้าหน้าที่ดู ฮือ ๆ พูดอธิบายเป็นภาษาญี่ปุ่น พร้อมให้แผนที่การเดินเที่ยว AonoDomon Tunnel มาด้วย และเดินนำมาชี้จุดที่ต้องขึ้นรถบัส ที่ฟัง ๆ มาพวกเราก็พอเดา ๆ กันได้ค่ะว่าต้องไปอย่างไรกัน ^^


Tourism Information ภาษาญี่ปุ่นล้วน ๆ ค่ะ ^^

สถานที่เที่ยวเยอะเหมือนกันนะนี่
แต่พอออกมาหน้าสถานีก็จะมี Tourism Information อีกจุดนึงค่ะ ตรงจุดนี้น่าจะพูดอังกฤษได้ แต่ไม่เข้าไปล่ะรถบัสมาพอดี ลุยเลยดีกว่า ขึ้นรถปุ๊บก็หยิบใบตัวเลขขาว ๆ หน้ารถมาด้วยนะคะ นั่งไปประมาณ 30 นาที ไม่ต้องกลัวว่าลงไม่ถูก ก่อนขึ้นก็ให้คนขับดูภาพค่ะ แต่ส่วนมากคนก็นั่งไปลงที่นี่นะ และจะเป็นคนญี่ปุ่นทั้งนั้นเลย มีกะเหรี่ยงสวยหล่อจากไทย 2 คนเอง 555


Tourism Information ที่น่าจะพูดภาษาอังกฤษได้

ได้ตารางเวลารถบัสมาล่ะค่ะ เจ้าหน้าที่วงให้เรียบร้อย

รถบัสมาแล้ว 

บรรยากาศบนรถบัสค่ะ
ระหว่างทางเหมือนออกไปชนบทมาก ๆ ลงรถปุ๊บก็เจอสถานที่แรกเลยคือ สะพานหินสวย ๆ สะพานยะบะเค Yabakei bridge สะพานหินเก่าแก่สวยดี มีแม่น้ำ Yamakunigawa ไหลผ่าน น้ำใสดี เจอใบไม้เปลี่ยนสีเบา ๆ ดูจากภาพนึกว่าไกลกัน แต่ไม่ไกลเลยค่ะ เดินไปถึง Ao-no-domon Tunnel  สบายเลย


ลงถึงก็เจอป้ายสถานที่เที่ยวค่ะ

สะพานยะบะเค Yabakei bridge

จากสะพานหินก็เดินต่อไปที่  "อุโมงค์อาโอะ (Ao-no-Domon Tunnel)” พอไปถึงก็เจอต้นแปะก๊วย ต้นเดียวสวยเด่นเป็นสง่าต้อนรับพวกเราเลย สวยดีนะ เดินไปนี่สบายสุด ๆ เพราะมีแต่เสียงของคนญี่ปุ่นและเกาหลี แลดูเป็น VIP 555 ไม่มีใครรู้จัก


จุดเริ่มต้นของ Ao-no-domon Tunnel

แล้วก็เดินเข้าไปใน Ao-no-domon Tunnel ซึ่งเป็นอุโมงค์สำหรับเดินและเลนรถวิ่งได้เลนเดียวค่ะ บรรยากาศระหว่างทางเดินค่อนข้างดีทีเดียว มีพระพุทธรูปด้วย ก็ถือโอกาสไหว้พระขอพรเลย 


อุโมงค์สำหรับเดินและเลนรถวิ่งได้เลนเดียวค่ะ

ใช้เป็นกรอบภาพซะเลย

ระยะทางของอุโมงค์ไม่ไกล เดินสบายเลยค่ะ

ตรงนี้ก็เดินลงไปเที่ยว ข้ามไปอีกฝั่งได้

เดินจนถึงอนุสาวรีย์โอะโชว (เซ็นไก โอะโชว) เป็นจุดมองวิวที่สวยงามของที่นี่เลยค่ะ แม้จะมีคนมาเที่ยวมากพอสมควร มองจากรถบัสที่จอดแต่ก็ยังมีความเป็นธรรมชาติสุด ๆ เลยค่ะ ขอจัดภาพรัว ๆ เลยนะคะ


อนุสาวรีย์โอะโชว (เซ็นไก โอะโชว)

มีการแสดง แสง สี ด้วย เดือนไหนก็ไม่แน่ใจนะคะ อ่านไม่ออก ^^

อนุสาวรีย์โอะโชว (เซ็นไก โอะโชว)

มุมนี้สวยดี ชอบมากเลยค่ะ

วิวแม่น้ำ ภูเขา เห็นแล้วสดชื่น

มุมนี้มองเห็นสะพานหินที่เดินมาด้วยค่ะ

ภูเขาสลับซับซ้อนสวยงาม

ด้านล่างมีแอ่งน้ำด้วย

วันนี้ท้องฟ้าเป็นใจ สีฟ้าสดใส

และแล้วก็ได้เจอใบไม้เปลี่ยนสีค่ะ

ที่นี่ยังเปลี่ยนสีไม่มาก หากเปลี่ยนหมดคงสวยงามสุด ๆ

เดินต่อไปอีกนิด ก็เจอสะพานหินอีก แล้วไปเจอจุดเที่ยวอีกจุด เสียดายที่น้ำน้อยค่ะ และใบไม้เปลี่ยนสียังไม่มากแต่หากเปลี่ยนสีเต็มที่คงจะสวยมากเลยค่ะ


เดินไปเจอสะพานหินอีกฝั่งนึงค่ะ

มองไปจากทางที่เดินมา สวยดี

จุดชมใบไม้เปลี่ยนสีจุดที่ 2 เสียดายยังเปลี่ยนไม่มาก

มุมริมน้ำ ก็สวยดีค่ะ
แดง เหลือง ตัดกับท้องฟ้า

คำนวณเวลา น่าจะได้เวลานั่งรถบัสกลับได้แล้ว แหม่มและน้องเลือกที่จะนั่งรอบก่อนสุดท้าย แต่รถก็ไม่มาสักที และประหลาดใจมากที่มีคนไทยมายืนรอด้วย 1 คน แถมพูดญี่ปุ่นได้ โชคดีมากเค้าก็เลยถามคุณลุงญี่ปุ่นที่เดินมา ก็ได้ทราบว่ารถที่นี่เสาร์อาทิตย์จะวิ่งน้อย ให้รอที่นี่ เดี๋ยวลุงจะไปเอารถมารับไปส่งที่สถานี ขุ่นพระ !!! อเมสซิ่งมาก คนญี่ปุ่นน่ารักที่สุด ตอนลงจากรถพวกเราก็โค้งคำนับอย่างสุดซึ้ง 


ขากลับ พวกเรามารอป้ายรถเมล์ตรงนี้ค่ะ

มีตารางเวลาบอกชัดเจน

รถคุณลุงที่ไปส่งพวกเราที่สถานีค่ะ กราบขอบคุณอีกครั้งนะคะ
แม้แผนจะกลับมาเที่ยวปราสาท Nakatsu จะพัง แต่ได้ความประทับใจกลับไปค่ะ ต้องขอบคุณคุณลุงอีกครั้งนะคะ หากมีโอกาสจะกลับไปหาค่ะ สำหรับท่านใดที่อยากไปเที่ยว Nakatsu ก็ไปกันได้นะคะ รับรองความสวยงาม ความเป็นธรรมชาติยังมีอีกมาก ไม่ว่าจะฤดูไหนที่นี่ก็สวยงามค่ะ

วันพฤหัสบดีที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

เที่ยวงานประดับไฟ Nabana No Sato Winter Illumination ที่ Kuwana จังหวัดมิเอะ (Mie)

เพราะภาพอุโมงค์ไฟล้านดวงเลยค่ะ ทำให้แหม่มอยากไปเยือนที่นี่ สำหรับเพื่อนใครที่ชื่นชอบงานประดับไฟที่ญี่ปุ่น ห้ามพลาด! เลยนะกับงาน “Nabana No Sato Winter Illumination” (なばなの里 ウィンターイルミネーション) ซึ่งเป็นงานประดับไฟในช่วงหน้าหนาว โดยเริ่มจัดตั้งแต่ประมาณกลางเดือนตุลาคม (ฤดูใบไม้ร่วง) ยาวไปจนถึงต้นปีของปีถัดไป



การเดินทาง
วิธีที่ 1  ต่อเดียวค่ะ
มีรถบัสจาก Meitetsu Bus Center ที่นาโกย่า ตรงไปงานได้เลยนะคะ ต้องไปขึ้นที่ห้าง Meitetsu จากสถานี Nagoya ให้เดินไปห้าง Meitetsu ตรงข้างอาคารจะมีทางเดินทะลุไปฝั่งที่จอดรถบัส ต้องไปซื้อตั๋วรถบัสที่ชั้น 3 และไปขึ้นรถกันที่ชั้น 4 ของ Meitetsu Bus Center ค่ะ แบบไป-กลับ 1,780 เยน และ เที่ยวเดียว 890 เยน
วิธีที่ 2  นั่ง 2 ต่อค่ะ
ต่อที่ 1 นั่งรถไฟจากสถานี Kintetsu Nagoya ขึ้นขบวน Kintetsu Nagoya Line Local for Shiratsuka ไปลงสถานี Kintetsu Nagashima หรือนั่ง Express Line (สายสีส้ม) Kintetsu Nagoya Line Semi-Exp. for KINTETSUYOKKAICHI ใช้เวลาประมาณ 23-30 นาที Fare 400 ไปลงสถานี Kintetsu Nagashima
ต่อที่ 2 เมื่อ Exit ออกมาที่หน้าสถานีหมายเลข 1 และ 2 กันค่ะ จากนั้น ให้เดินเลี้ยวขวามานิดเดียว เพื่อมารอคิวขึ้นรถบัส ที่จะนำเราไปยัง Nabana no Sato (ป้ายรถบัสจะอยู่หน้าสถานี สังเกตได้ง่าย ออกมาก็จะเห็นเลยค่ะ) จากป้าย Bus stop ไปถึง Nagashima Resort ใช้เวลาราวๆ 10 นาที (ค่ารถ 220 เยน)


 แหม่มนั่งรถไฟของ Kintetsu ไปค่ะ

ไปลงสถานี Kintetsu Nagashima

แต่งานนี้ขอไปรถไฟค่ะ เพราะมีพาสแล้ว และพวกเราเสียค่ารถบัสไปที่งานเพิ่ม 220 เยน/เที่ยว ไปกลับ 440 เยนเองค่ะ ประหยัดไปตั้ง 1,340 เยน เลยแน่ะ (งกมั๊ย 555) แต่หากใครไม่มีพาสก็จัดได้เลยค่ะ

มารอรถบัสบริเวณหน้าสถานี

รถบัสมาแล้วค่ะ

นั่งแป๊บเดียว ก็ถึงแล้วค่ะ

เวลาเปิดทำการ : 9:00 – 21:00 น. (บางวันเปิดถึง 22:00 น.) *กรุณาตรวจสอบเวลาปิดที่แน่นอนกับทางสวนอีกครั้งนะคะ
ราคาตั๋วเข้าชม คนละ 2,300 เยน รวมคูปองอาหาร 1,000 เยน (500 จำนวน 2 ใบ) สามารถใช้แทนเงินสดซื้ออาหารหรือของฝากในร้านค้าในงานได้เลย (แต่ไม่สามารถแลกเป็นเงินคืนได้ หากไม่ได้ใช้) แหม่มก็จัดอาหารไปมื้อนึงค่า


ได้ตั๋วแล้วค่ะ
เมื่อได้ตั๋วแล้ว ก็เดินเข้าไปชมกันค่ะ แต่ทางเดินเข้าไฟก็เริ่มระยิบระยับแล้ว พอเดินเข้ามาต้องโอโห เห็นใบไม้เปลี่ยนสีที่สะท้อนน้ำสวยงามมาก (แฮ่ะๆ ขออภัยถ่ายมาไม่สวยเลย) ตอนถ่ายหนาวมาก มือสั่น ภาพก็สั่น >_<


แค่ทางเดินไปก็สวยแล้ว

มุมนี้ ใบไม้เปลี่ยนสี กับไฟสวยงามมากเลยค่ะ
แล้วก็ไปเจอมุมไฟสีฟ้า ประดับเต็มเลยค่ะ กว้างพอสมควร แต่ถ่ายรูปยากมาก ไม่ใช่เพราะคนบังหรอกค่ะ แต่เพราะเป็นสีฟ้า ไม่รู้ถ่ายออกมาอย่างไรให้สวย 555 (หมายถึงไฟนะคะ)


มุมนี้ไฟสวย แต่ถ่ายไม่สวยเอง  >_<

เดินมาอีกหน่อยก็เจอลานตรงกลางสวน ช่วงนี้จะมีประดับไฟไปตามสายน้ำยาวทีเดียว และมีไฟสลับสับเปลี่ยน ฟ้า เหลือง เขียว แดง สวยดีค่ะ  







และมุมนี้ก็สามารถมองเห็น Island Fuji เป็นที่ชมวิวแบบ 360 องศาบนความสูง 45 เมตร จุดนี้ต้องเสียค่าขึ้นต่างหากนะคะ (ผู้ใหญ่ 500 เยน, เด็ก 300 เยน) แต่มีคนรอคิวยาวพอสมควรเลยค่ะ แหม่มกับเพื่อนตัดสินใจไม่ขึ้นกัน เลยเดินเที่ยวต่อเพื่อไปจุดไฮไลท์ของเราดีกว่า อิอิ


จุดชมวิวแบบ 360 องศา
ถึงแล้วค่าจุดไฮไลท์ของงานนี้ เป็นอุโมงค์ไฟสุดอลังการเป็นจุดที่อยากมาเห็นด้วยตาตัวเอง อุโมงค์มีความยาวประมาณ 200 เมตร ยิ่งใหญ่อลังการ และสวยมากๆ เลยค่ะ ร้อยด้วยไฟ LED หลายดวง นับไม่ถูกค่า 555++ ช่วงนี้จะมีความสุข สนุกในการถ่ายรูปมาก 






เดินลอดอุโมงค์มาก็จะเจอกำแพงไฟสวยอีกแล้ว และต้องเดินขึ้นไปจุดชมวิวด้านบน อยากบอกว่าอลังการมาก ๆ เลย สำหรับแหม่มถือว่าคุ้มมากเมื่อได้มาที่นี่ 


กำแพงไฟก็สวยดีนะคะ



ลงมาจากด้านบน เราก็จะเจออุโมงค์ไฟอีกซุ้มนึงค่ะ อุโมงค์ไฟนี้จะมีเปลี่ยนสีได้ด้วย เจ๋งไปอีกแบบ ระยะทางจะสั้นกว่าอุโมงค์แรกนะคะ  แต่ก็ฟินได้เช่นกัน คนก็ไม่เยอะด้วย


อุโมงค์ไฟนี้จะมีสีสลับกันนะคะ คนก็น้อยดี

สำหรับปี 2017-2018 จะจัดขึ้นในวันที่ 14 ตุลาคม 2017 จนถึงวันที่ 6 พฤษภาคม 2018 (14 Oct 2017 to 6 May 2018) ใครสนใจอยากไปชมไฟประดับแบบอลังการก็ลองวางแผนไปเที่ยวนะคะ รับรองว่าจะประทับใจเหมือนแหม่มแน่นอน


ชอบจัง อุโมงค์ไฟสวย ๆ
ดอกไม้แดงสวย ๆ

มุมนี้เห็นต้นไม้สะท้อนน้ำด้วย สวยจัง

ส่วนใครที่อยากไปชมไฟประดับที่โกเบก็ตามด้านล่างนี้เลยค่ะ
Kobe Luminarie งานประดับไฟเมืองโกเบประจำปีสุดอลังการ ที่หนึ่งปีมีหนึ่งหน
https://journeyfunfood.blogspot.com/2017/11/kobe-luminarie-japan.html